ข้าวฟ่าง (SORGHUM) เป็นเมล็ดธัญพืช ที่อยู่ในตระกูลหญ้า มีชื่อวิทยาศาสตร์ว่า SORGHUM BICOLOR จัดอยู่ในวงศ์ POACEAE เป็นพืชที่ปลูกง่าย ระยะเวลาในการเจริญเติบโตเร็ว ลักษณะของเมล็ดจะงอกออกมาเป็นช่อ มีรูปร่างเป็นทรงกลมรี เมล็ดอ่อนจะมีเปลือกสีเขียวนวลอ่อน ส่วนเมล็ดแก้จะมีสีน้ำตาล อุดมไปด้วยสารอาหาร คาร์โบไฮเดรต โปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุ
ข้าวฟ่าง ธัญพืชปลูกง่ายโตเร็ว แนะนำวิธีการปลูก และการดูแล
ข้าวฟ่างพืชตระกูลหญ้า มีเมล็ดที่สามารถนำมารับประทานได้ ซึ่งข้าวฟ่างมีกี่ชนิด โดยปกติจะแบ่งออกเป็น 2 ชนิดใหญ่ ๆ ดังนี้
- ข้าวฟ่างพันธุ์แท้
- ข้าวฟ่างลูกผสม
การปลูกในไทยส่วนใหญ่จะเน้นนำเมล็ดมาบริโภค ซึ่งมีวิธีการปลูก ดังนี้
วิธีปลูกข้าวฟ่าง
- จัดทำแปลงให้พร้อม ดินที่เหมาะสมต่อการปลูกคือ ดินร่วนปนทราย หรือดินเหนียว แต่ต้องระบายน้ำได้ดี
- ขุดหลุม แต่ละหลุมให้มีระยะห่างกันประมาณ 30 เซนติเมตร จากนั้นก็หยอดเมล็ดลงไป แต่ละหลุมจะหยอดประมาณ 3-4 เมล็ด เท่านั้น
- กลบหน้าดินให้เรียบร้อย รดน้ำให้ชุ่ม แต่อย่าให้แฉะ
- เมื่อต้นงอกอายุประมาณ 14-15 วัน ให้ถอนต้นอ่อนออกมา แล้วปลูกให้มีระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 10 เซนติเมตร
- หากดินไม่สมบูรณ์ ต้องใส่ปุ๋ยเพิ่ม เมื่ออายุของการเพาะปลูกได้ 25 วัน โดยจะใช้ปุ๋ยคอกใส่ลงไปเพิ่มเติม
วิธีการดูแล
ข้าวฟ่าง วิธีดูแล ไม่ยุ่งยากต้องปลูกในบริเวณที่มีแดด เนื่องจากชอบแดดค่อนข้างมาก หากได้รับแดดตลอดทั้งวัน จะช่วยให้เจริญเติบโตไว ส่วนในเรื่องของน้ำ สามารถเจริญเติบโตได้ทั้งในที่น้ำขัง และน้ำแห้ง
ประโยชน์ของการบริโภค ทานแล้วดีอย่างไรต่อร่างกาย
ข้าวฟ่างเป็นเมล็ดธัญพืช ที่นิยมทานกันโดยทั่วไป ซึ่งข้าวฟ่างรสชาติ จะค่อนข้างมีรสหวาน สามารถนำมาทำขนมได้ และแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์หลายชนิด ซึ่งประโยชน์ของข้าวฟ่าง มีดังต่อไปนี้
- บำรุงร่างกาย ต่อต้านอนุมูลอิสระ ลดความเสี่ยงต่อการเป็นโรคเบาหวาน ความดันโลหิตสูง หัวใจ และมะเร็ง เป็นต้น
- ลดระดับไขมันในเส้นเลือด
- มีไฟเบอร์สูง ช่วยในเรื่องของระบบย่อยอาหาร และระบบขับถ่าย ป้องกันท้องอืด ท้องเฟ้อ
- ข้าวฟ่างลดความอ้วน ทานแล้วอิ่มง่าย อยู่ท้องนาน
ทั้งหมดนี้ก็เป็นประโยชน์ที่ได้จากการบริโภค ดังนั้นแนะนำเลยว่าหากใครมีพื้นที่ในการปลูก และอยากเริ่มทำการเกษตร ธัญพืชชนิดเหมาะสมมาก ปลูกได้ในสภาพอากาศของไทย โตไว ขายง่ายได้ราคาดี
สรุป
ข้าวฟ่างธัญพืชที่สามารถปลูกได้ในประเทศไทย ดูแลได้ง่าย ทนต่อสภาพแวดล้อมได้ดี ซึ่งปัจจุบันเกษตรกรสนใจปลูกธัญพืชกันเป็นอย่างมาก เพราะได้ราคาดี และยังนำไปแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์อื่น ๆ ได้อย่างหลากหลาย ข้าวฟ่างราคาจะอยู่ที่ประมาณ 180 บาท ต่อกิโลกรัม
อ่านบทความอื่นๆ:
สนับสนุนโดย:
https://ufaball.bet/เว็บตรงไม่ผ่านเอเย่นต์ แทงบอลง่าย ปลอดภัย ได้แน่นอน