มะขามป้อม ( Indian Gooseberry ) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Phyllanthus Emblica L. มีลักษณะเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางที่อยู่ในวงศ์ PHYLLANTHACEAE จัดเป็นผลไม้สมุนไพรที่ได้รับความนิยมมากอีกชนิดหนึ่งในขณะนี้ โดยมะขามป้อมได้มีอยู่คู่กับคนไทยมาตั้งแต่ในสมัยโบราณมักนิยมนำมาปลูกเอาไว้ในบริเวณบ้านเพื่อนำผลมาทานและการให้ร่มเงา-ความร่มรื่น รวมถึงการนำมาทำเป็นยารักษาโรคด้วย
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของต้นมะขามป้อม
ต้น – มะขามป้อมเป็นไม้ยืนต้นขนาดกลางที่มีผิวเปลือกด้านนอกค่อนข้างขรุขระ มีสีเขียวอมเทา ส่วนเนื้อไม้ด้านในมีสีขาว เมื่อเจริญเติบโตเต็มวัยแล้วจะมีความสูงได้ราวๆ 8-12 เมตร
ใบ – ส่วนใบจะมีลักษณะเป็นประเภทใบประกอบที่มีใบย่อยเล็กๆรูปทรงรี สีเขียว ผิวใบเรียบ ขอบใบเรียบ เรียงตัวกันตามแนวกิ่งก้านของใบ ประกอบขึ้นมาเป็น 1 ใบใหญ่ มีลักษณะเช่นเดียวกับกับใบมะขามทั่วไป
ดอก – ดอกมีสีขาว ขนาดเล็ก โดยจะออกดอกรวมกันเป็นกระจุกหนาแน่นอยู่ตามกิ่งหรือง่ามใบ
ผล – ผลมีรูปทรงกลม ผิวเกลี้ยง สีเขียว มีรสชาติเปรี้ยว-ฝาด เมื่อทานและดื่มน้ำตามจะมีรสชาติหวานตามมาด้วย
เมล็ด – เมล็ดจะมีรูปทรงกลมสีเขียวเข้ม-น้ำตาล มีเส้นรอบเมล็ด โดยจะบรรจุอยู่ภายในผลจำนวน 1 เมล็ด
ประโยชน์และสรรพคุณของมะขามป้อม
พบว่ามะขามป้อมเป็นผลไม้สมุนไพรที่อุดมไปด้วยวิตามินซีสูงมาก โดยมีการวิจัยพบว่าเมื่อเปรียบเทียบในปริมาณที่เท่ากันมะขามป้อมมีปริมาณวิตามินซีสูงมากกว่าส้มถึง 20 เท่า และมีวิตามินซีสูงกว่าวิตามินซีสังเคราะห์มากถึง 12 เท่าเลยทีเดียว นอกจากนี้ยังเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณทางยามากมาย เช่น
-ใช้รักษาอาการหวัด ไอ ขับเสมหะ แก้เจ็บคอ
-ช่วยขับปัสสาวะ เป็นยาระบาย รักษาอาการปวดท้องน้อย
-รักษาโรคกระเพาะอาหาร แก้อาการคลื่นไส้อาเจียน แก้อาการกระหายน้ำ แก้โรคเลือดออกตามไรฟัน รักษาโรคหนองใน
-ใช้เป็นยาบำรุงธาตุ ช่วยเสริมภูมิต้านทานโรคให้แก่ร่างกาย
-สารสกัดจากมะขามป้อมมีฤทธิ์ในการต้านมะเร็งคล้ายกับการใช้เคมีบำบัด
-มีสาร Antioxidant ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ ต่อต้านริ้วรอยแห่งวัย บำรุงผิวให้เปล่งปลั่ง กระจ่างใส
วิธีดูแลต้นมะขามป้อมให้เจริญงอกงาม
ดิน – ควรปลูกในดินที่เป็นดินร่วนซุย และ ดินที่ประกอบด้วยอินทรียวัตถุมาก โดยควรใช้ปุ๋ยขี้ไก่ผสมกับดินนำไปใส่รองก้นหลุมก่อนนำต้นพันธุ์ลงปลูก
น้ำ – ในช่วงแรกควรรดน้ำ 2-3 วันต่อครั้ง เมื่ออายุครบ 2 ปี ควรหยุดการให้น้ำหลังจากหมดฤดูฝนแล้ว เพื่อเป็นการกระตุ้นให้มีการแตกยอดและใบขึ้นมาใหม่ รวมถึงการออกผลได้มากขึ้นในฤดูฝนปีถัดไป
แสงแดด – ควรปลูกในบริเวณที่มีแสงแดดส่องถึง หรือควรปลูกในที่กลางแจ้ง
ปุ๋ย – ในช่วงแรกที่ปลูกควรใช้ปุ๋ยเคมีสูตร 25-7-7 ในปริมาณ 1 ช้อนต่อต้น โดยเว้นให้ 7 วันต่อครั้ง และหลังจากนั้นให้ใช้ปุ๋ยเคมีสูตรเสมอ เช่น 15-15-15 , 16-16-16 ร่วมกับปุ๋ยขี้ไก่ ทุกๆ 14 วัน อาจจะมีการฉีดปุ๋ยทางใบเพื่อเร่งใบและผงฃลเพิ่มเติมด้วย
การขยายพันธุ์ – นิยมขยายพันธุ์โดยการทาบกิ่ง และ การเสียบยอด
นอกจากนี้หากต้องการบังคับต้นให้เตี้ย ควรเริ่มตัดแต่งทรงพุ่มเมื่อต้นมีขนาดประมาณเข่า เพื่อให้ง่ายต่อการเก็บผลผลิตและการดูแลรักษา แม้ว่ามะขามป้อมจะเป็นสมุนไพรที่มีสรรพคุณดีๆมากมายแต่ก็ยังมีข้อควรระวังในการทานด้วย เช่น ควรระวังในผู้ที่จะต้องเข้ารับการผ่าตัดเพราะอาจมีฤทธิ์ทำให้มีภาวะเลือดออกผิดปกติ , ควรเลี่ยงกทารทานมะขามป้อมในกลุ่มผู้ป่วยโรคไตและผู้ป่วยโรคโลหิตจาง ฯลฯ ดังนั้นจึงควรมีการศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมและควรปรึกษาแพทย์ด้วยเพื่อสุขภาพที่ดีค่ะ