ว่านหางจระเข้ ( ALO VERA ) เป็นพืชล้มลุกที่มีมากถึง 300 สายพันธุ์ จัดอยู่ในวงศ์ LILIACEAE มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า ALOE BARBA DENSIS MILL. มีถิ่นกำเนิดมาจากแถบชายฝั่งทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและทวีปแอฟริกาตอนใต้ ในประเทศไทยสามารถพบได้ทั่วไปในทุกภูมิภาคเป็นพืชหาง่ายและราคาไม่แพง นิยมนำว่านหางจระเข้พันธุ์แคระมาปลูกเป็นไม้กระถางปลูกประดับตามบ้าน สวน โต๊ะทำงาน และสถานที่ต่างๆ
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของว่านหางจระเข้
ลำต้น – มีลักษณะเป็นข้อปล้องสั้นๆ สีเขียวอมน้ำตาล
ใบ – ใบมีลักษณะอวบน้ำ ภายในใบจะเป็นวุ้นใสลื่นๆ รูปทรงเรียวปลายแหลม ผิวใบเรียบ สีเขียวอมเทา ในบางสายพันธุ์จะมีจุดสีขาวแซมด้วย ขอบใบเป็นหนามแหลมขนาดเล็ก
ดอก – ส่วนดอกจะมีกลีบดอกทรงหลอดสีเหลือง ออกดอกบริเวณปลายยอด มีสีแดง-อมสีม
ผล – ผลแห้ง รูปทรงคล้ายกระสวย
ประโยชน์และสรรพคุณของว่านหางจระเข้
ว่านหางจระเข้อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุมากมายไม่ว่าจะเป็น วิตามินเอ วิตามินบี1 วิตามินบี2 วิตามินบี3 วิตามินบี6 วิตามินซี วิตามินอี โพแทสเซียม แมกนีเซียม ฯลฯ
มีประโยชน์และสรรพคุณของว่านหางจระเข้ เช่น รักษาแผลในกระเพาะอาหารและลำไส้ รักษาโรคริดสีดวงทวาร ใช้รักษาบาดแผลทั้งแผลสดและแผลน้ำร้อนลวก รักษารอยแผลเป็น ปกป้องผิวจากแสงแดด ต้านอนุมูลอิสระ ฯลฯ นอกจากนี้ว่านหางจระเข้ยังสามารถนำมาผลิตเป็นผลิตภัณฑ์ยาสระผม ครีมบำรุงผิว ฯลฯ
โทษและข้อควรระวังในการใช้ว่านหางจระเข้
แม้ว่าจะมีประโยชน์หลากหลายแต่โทษของว่านหางจระเข้ที่ควรระวังก็มีอยู่เช่นกัน เช่น กระตุ้นการหลั่งกรดในกระพาะอาหาร มีส่วนทำให้เป็นมะเร็งโพรงจมูก สตรีมีครรภ์หรืออยู่ในช่วงให้นมบุตรไม่ควรทานเพราะอาจจะทำให้แท้งลูกหรือทารกที่อยู่ในช่วงให้นมอาจเกิดอาการท้องเสียได้ อาจก่อให้เกิดอาการแพ้ มีผดผื่นคันขึ้นตามตัว ฯลฯ ดังนั้นจึงควรทานด้วยความระมัดระวังและควรมีการปรึกษาแพทย์ผู้ดูแลก่อนใช้
วิธีดูแลต้นว่านหางจระเข้
หากอยากให้ต้นว่านหางจระเข้มีการเจริญเติบโตที่ดีและเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่จะต้องมีวิธีดูแลต้นว่านหางจระเข้ที่เหมาะสม ดังนี้
ดิน – ควรปลูกในดินร่วนที่สามารถระบายน้ำได้ดี
น้ำ – แม้ว่าว่านหางจระเข้จะชอบความชุ่มชื้น แต่ก็ไม่ควรรดน้ำจนชื้นแฉะและควรระวังไม่ให้มีน้ำท่วมขัง เพราะจะทำให้รากเน่าได้ง่าย เป็นวิธีดูแลต้นว่านหางจระเข้ง่ายๆที่หลายคนมักเข้าใจผิดอยู่บ่อยๆ
แสงแดด – ควรให้ต้นว่านหางจระเข้ได้รับแสงแดดอย่างเพียงพอเพื่อให้สามารถเจริญเติบโตได้อย่างเต็มที่
ปุ๋ย – ควรให้ปุ๋ย สูตร 15-30-15 เพื่อเร่งการเจริญเติบโต โดยการนำปุ๋ยผสมกับน้ำแล้วรดบำรุง 2 เดือนต่อครั้ง โดยเฉพาะในช่วงเดือนเมษายนถึงกันยายน
การขยายพันธุ์ – นิยมขยายพันธุ์โดยการแยกหน่อ
ความนิยมในว่านหางจระเข้ไม่ได้มีเฉพาะในประเทศไทยเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงประเทศต่างๆทั่วโลกทำให้มีการคิดค้นผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้ออกมามากมาย นั่นก็เพราะสรรพคุณของว่านหางจระเข้นั่นเอง สำหรับราคาของต้นว่านหางจระเข้เริ่มต้นที่หลักสิบไปจนถึงหลักร้อย เมื่อเทียบกับสรรพคุณที่ได้ถือว่าคุ้มค่ามากๆเลยล่ะค่ะ