ปัจจุบันความนิยมพืชสมุนไพรไทยกำลังได้รับความนิยมมากขึ้น เนื่องจากสถานการณ์โรคระบาดในปัจจุบันทำให้ผู้คนเริ่มหันมาใส่ใจและรักษาสุขภาพของตัวเองและคนรอบข้างมากยิ่งขึ้น และการใช้สมุนไพรไทยก็เป็นทางเลือกที่จัดว่าดีอีกทางเลือกหนึ่งเพราะการทานยาสมุนไพรนั้น หากทานด้วยความระมัดระวัง มีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องและเพียงพอก็จะช่วยให้มีสุขภาพร่างกายที่ดีขึ้นได้แถมมีความรุนแรงในด้านยังผลข้างเคียง น้อยกว่าการใช้ยาเคมีด้วย
รางจืด ( Laurel clockvin , Blue trumphet vine ) เป็นไม้เลื้อยที่อยู่ในวงศ์เหงือกปลาหมอ ( ACANTHCEAE ) เป็นพืชที่พบได้ในพื้นที่เขตร้อน-เขตอบอุ่นในแถบทวีปเอเชีย ในประเทศไทยสามารถพบได้ทั่วไปแทบทุกภูมิภาคเลยทีเดียว ปัจจุบันนิยมปลูกเป็นพืชสมุนไพรส่งขายสร้างรายได้กันมากมาย อีกทั้งยังได้รับสมญานามว่า “ ราชาแก่งการถอนพิษ ”
ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ของรางจืด
ลำต้น – มีลักษณะลำต้นเป็นเถาไม้เลื้อยเนื้อแข็งเกี่ยวพันรัดอยู่ตามต้นไม้หรือไม้ค้ำยัน ลำต้นมีสีเขียวทรงกลมเป็นปล้อง
ใบ – ออกใบเป็นใบเดี่ยว สีเขียว บริเวณโคนใบโค้งมน รูปทรงเรียวปลายใบแหลม ขอบใบเรียบ ผิวใบเรียบเป็นมัน
ดอก – ดอกมีสีฟ้าอมม่วง ปลายดอกแยกออกเป็น 5 กลีบ ขอบใบหยักเป็นคลื่นเล็กน้อย มักออกดอกเป็นช่อห้อยลงตามซอกใบ ด้านในของดอกบรรจุน้ำหวานจากเกษรเอาไว้ด้วย
ผล – ลักษณะเป็นฝัก ช่วงปลายแหลม พอแก่จะมีการแตกออกเป็น 2 ซีก
สรรพคุณของรางจืดที่มากกว่าการล้างสารพิษ
https://www.chakkrawatherb.com/products/mpo-00027
เมื่อพูดถึงสมุนไพรที่ชื่อว่า รางจืด ส่วนใหญ่มักจะนึกถึงสมุนไพรที่ใช้เพื่อการล้างสารพิษที่ตกค้างอยู่ภายในร่างกาย ซึ่งอาจพูดได้ว่ารางจืดเป็นสมุนไพรที่ช่วยป้องกัน ยับยั้ง ไม่ให้มีสารพิษที่เป็นอันตรายสะสมในร่างกายมากเกินไปจนก่อให้เกิดโรคต่างๆนั่นเอง นอกนี้สรรพคุณของรางจืดในแง่ของการรักษาโรคยังมีอีกมากมาย เช่น ถอนพิษไข้ บรรเทาอาการแพ้ แก้อาการเมาค้าง ใช้ควบคู่ไปกับการรักษาอาการติดยาเสพติดเพื่อช่วยลดสารเสพติดในร่างกาย มีสารต้านมะเร็ง ต้านสารอนุมูลอิสระ แก้ร้อนใน รักษาแผลไฟไหม้น้ำร้อนลวก ต่อต้านพิษจากตะกั่วต่อสมองซึ่งโดยมากมักมาจากเครื่องยนต์ ฯลฯ
วิธีดูแลต้นรางจืดให้เจริญงอกงาม
รางจืดเป็นพืชสมุนไพรที่ปลูกง่ายและเจริญเติบโตได้รวดเร็ว ซึ่งวิธีดูแลต้นรางจืดก็ไม่ยุ่งยาก แถมยังมีสรรพคุณทางยาหลากหลายทำให้เป็นที่ต้องการของตลาดอย่างต่อเนื่อง สำหรับผู้สนใจปลูกควรมีวิธีดูแลต้นรางจืดดังนี้
ดิน – เจริญเติบโตได้ดีในดินร่วนที่อุดมด้วยอินทรียวัตถุและไม่มีน้ำท่วมขัง
น้ำ – ชอบความชุ่มชื้นในระดับปานกลาง ควรรดน้ำวันละ 1–2 ครั้ง ในช่วงแรก เมื่อต้นรางจืดแข็งแรงแล้ว จึงค่อยเปลี่ยนมารดน้ำวันละครั้ง ไม่ควรรดน้ำมากจนดินชื้นแฉะหรือมีน้ำท่วมขัง
แสงแดด – รางจืดเจริญเติบโตได้ดีในบริเวณที่มีแสงแดดส่องถึงตลอดวัน ดังนั้นจึงสามารถปลูกกลางแจ้งที่แดดจัดได้
ปุ๋ย – ควรใช้ปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก โดยใส่ปุ๋ย 2-3 เดือนต่อครั้ง
การขยายพันธุ์ – นิยมขยายพันธุ์โดยการปักชำ
ดังนั้นก่อนนำรางจืดมาปลูกควรมีความรู้ความเข้าใจวิธีดูแลต้นรางจืดเสียก่อนเพื่อที่เวลานำไปปลูกจะสามารถดูแลให้ต้นรางจืดเจริญเติบโตงอกงามได้ นอกจากจะปลูกเพื่อประโยชน์และสรรพคุณของรางจืดแล้วยังสามารถปลูกในเชิงพาณิชย์ทำรายได้เลี้ยงดูครอบครัวได้อีกด้วย โดยต้นพันธุ์รางจืดมีราคาเริ่มต้นที่ 50-1,000 บาท