แตงโม ( Watermelon ) จัดเป็นพืชเศรษฐกิจอีกอย่างหนึ่ง ในประเทศไทยนิยมปลูกกันมากที่สุดในแถบภาคตะวันออกเฉียงเหนือ โดยใช้พื้นที่ปลูกราวๆ 99,760 ไร่ อาทิเช่น ร้อยเอ็ด , ยโสธร , ขอนแก่น แตงโมเป็นพืชที่ถูกจัดให้อยู่ในประเภทผัก ผักที่เรานิยมนำส่วนผลมาทานสดเป็นเหมือนผลไม้ มีรสชาติหวานอร่อย ทานง่าย มีน้ำเยอะแก้กระหายได้ดี ในส่วนยอดและผลอ่อนสามารถนำมาทานเป็นผักและนำมาประกอบอาหารเมนูต่างๆได้ โดยในปัจจุบันแตงโมเป็นพืชไร่ที่คนนิยมปลูกมากไม่แพ้พืชชนิด อีกทั้งยังมีตลาดคอยรองรับที่ค่อนข้างกว้างสามารถปลูกส่งออกขายต่างประเทศได้ด้วย
ต้องปลูกยังไงให้แตงโมเจริญงอกงาม ?
แตงโมเป็นพืชที่สามารถเจริญเติบโตได้ในดินแทบทุกชชนิด แต่ดินที่เหมาะสมในการนำไปปลูกมากที่สุดควรเป็นดินร่วนปนทรายที่ไม่มีน้ำขัง สามารถระบายน้ำได้ดี ควรปลูกในบริเวณกลางแจ้งที่แสงแดดจัด และควรเป็นที่ที่มีสภาพอากาศค่อนข้างแห้ง-อุณหภูมิสูง ซึ่งหากนำไปปลูกในพื้นที่ที่มีอุณหภูมิเย็นจะทำให้แตงโมหยุดการเจริญเติบโต การปลูกในบริเวณพื้นที่ที่มีฝนตกชุกก็จะทำให้แตงโมต้องเผชิญกับโรคทางใบค่อนข้างมากซึ่งเป็นอุปสรรคในการเจริญเติบโตทั้งสิ้น ดังนั้นฤดูที่เหมาะสมในการปลูกแตงโมมากที่สุดคือ ช่วงปลายฤดูหนาวที่จะก้าวเข้าฤดูร้อนในช่วงเดือนกุมภาพันธุ์ถึงเดือนมิถุนายน และที่สำคัญแปลงปลูกจะต้องรับแสงแดดได้แบบเต็มวันด้วย และวิธีปลูกแตงโมให้เจริญงอกงามและได้ผลผลิตดี เกษตรกรสามารถทำได้ดังนี้
– การปลูกแตงโมควรเริ่มจากการเตรียมดิน ควรมีการไถดินให้ลึกประมาณ 22-30 เซนติเมตร ก่อนการหยอดเมล็ดพันธุ์แตงโมให้นำปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมักใส่รองพื้นก่อน หากดินมีสภาพเป็นกรดให้นำปูนขาวมาใส่เพื่อปรับสภาพดินก่อน
– ควรยกร่องดินกว้างประมาณ 4-5 เมตร เพื่อให้สามารถปลูกแตงโม2 แถวในร่องได้ โดยการใช้ระยะปลูกที่ 60-90-200-300 เซนติเมตร จากนั้นใช้ปุ๋ยคอกรองพื้นก่อนเล็กน้อยแล้วนำเมล็ดพันธุ์แตงโมมาหยอดลงหลุมที่เตรียมไว้ 3- 4 เมล็ด เสริมเคล็ดลับอีกเล็กน้อย คือ ก่อนการนำลงหยอดในหลุมควรบีบเมล็ดแตงโมให้แตกก่อนสักเล็กน้อยจะช่วยให้เมล็ดงอกได้เร็วขึ้น
– เมื่อเริ่มงอกแตกใบจริง 2-3 ใบ ให้ถอนแยกออกมาให้เหลือไว้เพียงหลุมละ 2 ต้น เท่านั้น โดยเลือกเหลือไว้เพียงต้นที่มีลักษณะแข็งแรงที่สุด
วิธีการดูแลรักษาแตงโมหลังการปลูก
การปลูกแตงโมขั้นตอนการปลูกว่าสำคัญแล้ว วิธีการดูแลก็สำคัญไม่น้อยเช่นกัน เมื่อได้ทราบถึงวิธีปลูกแตงโมที่ถูกต้องไปแล้ว ต่อไปคือ การดูแลหลังการปลูกซึ่งเกษตรกรควรทำตามดังนี้
– การให้ปุ๋ย ควรใช้ปุ๋ย สูตร 10-10-20 หรือ 13-13-21 ในอัตราส่วน 100-150 กิโลกรัม /ไร่ และอาจมีการใส่ปุ๋ยไนโตรเจน เป็นยูเรียและแอมโมเนียซัลเฟตผสมกันนำมาใส่บำรุงในอัตราส่วน 20 กิโลกรัม/ไร่ โดยให้แบ่งใส่ 2 รอบ คือ เมื่อต้นแตงโมมีใบ 5 ใบ ให้แบ่งใส่ 1 / 3 ส่วน และเมื่อเถาแตงยาวได้ประมาณ 30 เซนติเมตร ให้ใส่อีก 2 / 3 ส่วนที่เหลือ เป็นต้น
– การให้น้ำ ควรมีการให้น้ำต้นแตงโมอย่างทั่วถึงและสม่ำเสมอ จะช่วยให้การเจริญเติบโตเป็นไปอย่างต่อเนื่องและช่วยให้ได้ผลผลิตดี แต่ไม่ควรให้มากเกินไปจนเกิดน้ำท่วมขังเพราะอาจจะทำให้เน่าตายได้ง่าย
– การคลุมดิน การคลุมดินด้วยฟางก็เพื่อรักษาความชุ่มชื้นในดิน, ป้องกันผิวดินอับ , ป้องกันไม่ให้ดินร้อนเกินไป , ป้องกันวัชพืช
– การจัดแต่งเถา เมื่อปลูกแตงโมไปได้สักระยะหนึ่งเถาแตงจะเริ่มยาว เกษตรกรควรมีการจัดระเบียบให้เถาแตงพาดไปในทิศทางเดียวกันเพื่อให้ง่ายต่อการดูแล โดยใน 1 ต้นไม่ควรปล่อยมีเถามากเกิน 4 เถา ในการจัดแต่งเถาไม่ควรทำในตอนเช้าเพราะเถาจะหักง่ายในช่วงนั้นควรรอช่วงคล้อยบ่ายไปแล้ว
การปลูกแตงโมนั้นนอกจากจะต้องรู้ถึงวิธีปลูกแตงโมที่ถูกต้องเหมาะสมและวิธีการดูแลที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษแล้ว เทคนิคอีกอย่างหนึ่งที่จะขาดไปไม่ได้เลยในการปลูกแตงโมให้ได้ผลผลิตดี ก็คือ การต่อดอก เป็นการช่วยผสมละอองเกสรโดยใช้แรงคนมาช่วย ควรทำในเวลา 06.00-10.00 น. ซึ่งเป็นเวลาที่ดอกตัวเมียอ้ารับเกสรได้อย่างเต็มที่ หากเป็นช่วงเวลาหลังจากนี้ดอกตัวเมียจะหุบไม่สามารถผสมเกสรได้ ทำได้โดยเด็ดเอาดอกเกสรตัวผู้ซึ่งมีลักษณะเป็นดอกที่มีละอองเกสรสีเหลืองฟุ้งๆ นำไปแตะที่ดอกตัวเมียที่มีลักษณะรังไข่คล้ายๆผลแตงเล็กๆอยู่ด้านในดอกและมีน้ำเยิ้มๆอยู่ด้วย เมื่อติดผลควรเลือกเอาไว้เฉพาะผลที่มีก้านใหญ่และรูปทรงสมบูรณ์สวย โดยใน 1 ต้น ควรเก็บไว้เพียง 4 ผล ผลอื่นนอกจากนี้ควรเด็ดออก เพื่อให้แตงโมสามารถเจริญเติบโตได้เต็มที่และทำให้มีผลผลิตมีคุณภาพ จากนั้นดูแลให้ความชุ่มชื้นอย่างสม่ำเสมอ เพียงเท่านี้คุณก็จะได้แตงโมที่ดีมีคุณภาพและให้ผลผลิตมากสร้างกำไรงามๆได้แล้วล่ะค่ะ