การใช้ ปุ๋ย เคมี สามารถช่วยให้การปลูกพืชของคุณดีขึ้นได้อย่างไร และควรใช้แบบไหนปุ๋ยเคมีถึงจะช่วยทำประโยชน์ให้คุณ
ปุ๋ย เคมี ต่างจากปุ๋ยอินทรีย์อย่างไร
หลายคนอาจยังสงสัยว่า ปุ๋ยเคมี นั้นต่างจากปุ๋ยธรรมชาติอย่างไร และถ้าใช้ปุ๋ยเคมี อันตรายไหม ซึ่งคำตอบของคำถามเหล่านี้ก็คือ ปุ๋ยที่ผ่านเคมีจะมีธาตุอาหารชนิดเข้มข้นไม่ต้องใช้ปุ๋ยมากและทำให้ใช้แรงงานน้อยลง ส่วนปุ๋ยอินทรีย์นั้นเกษตรกรจะต้องทำการผลิตขึ้นเองโดยใช้สิ่งมีชีวิตต่าง ๆ เป็นตัวช่วย ซึ่งแน่นอนว่าใช้แรงมากกว่า และในส่วนที่สงสัยว่าอันตรายหรือไม่คำตอบก็คือ หากใช้ในปริมาณที่เหมาะสมจะไม่ส่งผลเสีย แต่ถ้าบางคนใช้มากไปอาจทำให้กระทบกับการเพาะปลูกในปีถัดไปได้ เนื่องจากดินจะเป็นกรด
ปุ๋ยเคมี มีแบบไหนให้คุณใช้บ้าง
แน่นอนว่าพืชพรรณในโลกนี้มีมากมายจึงมีการผลิตปุ๋ย เคมีให้เหมาะกับแต่ละการใช้งาน โดยสามารถแบ่งออกเป็นประเภทหลัก ๆ ได้ดังนี้
- ปุ๋ยเชิงเดี่ยว
ถ้าจะถามว่าปุ๋ยเคมี มีอะไรบ้างก็ต้องมีชื่อปุ๋ยชนิดนี้อยู่ในคำตอบ เพราะเป็นปุ๋ยที่มีธาตุหลักเป็นไนโตรเจน ฟอสฟอรัส หรือโพแทสเซียม ธาตุใดธาตุหนึ่งอยู่ในปุ๋ยเท่านั้น
- ปุ๋ยเชิงประกอบ
สำหรับใครที่สงสัยว่าปุ๋ยเคมีมีกี่ประเภทก็ต้องบอกอีกเช่นเดียวกันว่าปุ๋ยประเภทนี้ก็เป็นที่นิยม มีธาตุอาหารหลักตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไป และทำจากกระบวนการทางเคมี - ปุ๋ยเชิงผสม
ส่วนใครสงสัยว่าปุ๋ยเคมี ทํามาจากอะไร ปุ๋ยแบบผสมนี้จะมีธาตุหลักตั้งแต่ 2 อย่างขึ้นไป เกิดจากการนำแม่ปุ๋ยมาผสมกัน ซึ่งก็เป็นการผสมกันทางเคมีนั่นเอง
ปุ๋ยเคมี มีประโยชน์อย่างไรบ้าง
แม้ว่าจะขึ้นชื่อว่าเป็นปุ๋ย เคมี แต่ก็มีประโยชน์กับการเกษตรเป็นอย่างมาก และนี่คือประโยชน์ที่คุณจะได้จากการใช้ปุ๋ยชนิดนี้
- มีธาตุอาหารสูง ปุ๋ยเคมี ประโยชน์ที่มากที่สุดก็คงต้องยกให้กับข้อนี้ ใช้เพียงนิดเดียวก็เพียงพอกับการเพาะปลูกแล้ว
- ถูกกว่าปุ๋ยอินทรีย์ เมื่อเป็นเรื่องของราคาย่อมมีผลกับต้นทุน การใช้ปุ๋ยประเภทนี้ช่วยให้เกษตรกรมีกำไรเพิ่มมากขึ้น
- สะดวก การหาซื้อปุ๋ยประเภทนี้ทำได้ง่าย และยังใช้งานง่ายเช่นเดียวกัน ที่สำคัญคือคุณจะเห็นผลได้เร็วกว่าการใช้ปุ๋ยอินทรีย์อย่างแน่นอน
หลังจากได้ทำความรู้จักกับเรื่องราวของ ปุ๋ย เคมี กันไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วเชื่อว่าหลายคนน่าจะพอเข้าใจพื้นฐานของการใช้งานปุ๋ยชนิดนี้กันมากขึ้นแล้ว ที่เหลือก็คือการปรับใช้ให้เข้ากับพืชพรรณที่คุณทำการปลูกอยู่เพื่อที่จะให้ปุ๋ยทำงานได้ดีพร้อมทั้งไม่ทำร้ายสิ่งแวดล้อมมากจนเกินไปอีกด้วย
อ่านบทความอื่นๆ: